วันนี้ Horoworld นำเรื่องราวเกี่ยวกับ จิตสัมผัส มานำเสนออีกครั้ง สืบเนื่องจากหนุ่มฉายา ริว จิตสัมผัส ลายมือบอกชีวิต ได้ ไปเปิดเผยตัวเองว่าเป็นคนที่มีพลังจิตพิเศษ ในรายการ ตีสิบ เมื่อคืนที่ผ่านมา(9 มิ.ย.52) คุณ ริว จิตสัมผัส สามารถ หยั่งรู้ และสัมผัสถึง เรื่องราวชะตาชีวิตของคนเราได้ หรือที่เรียกกันว่า จิตสัมผัส นั่นเอง โดยดูจากลายมือ(เขียน) ดูเลข 0-9 ดูลายเซ็น เลขที่บ้าน
คุณ ริว จิตสัมผัส เป็นคนจังหวัดนราธิวาศ ปัจจุบันอายุ 31 ปี มีอาชีพเป็น VJ รายการช่อง MVTV สอนร้องเพลงกับน้องๆที่ด้อยโอกาส คุณริวเล่าว่าตั้งแต่ 10 ขวบก็ไม่ทานเนื้อสัตว์ เนื่องจากเห็นทุกอย่างเป็นเลือดไปหมด ทุกวันนี้ทานแต่อาหารเจ
การเริ่มต้นการมีจิตสัมผัสตั้งแต่เหตุการณ์คุณพ่อเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถ ยนต์ แล้วทางบ้านจะเอาเรื่องทางกฎหมายกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด ระหว่างนั้น คุณ ริว จิตสัมผัส เริ่มมีปฎิกิริยากับตัวเองโดยมองเห็นคำว่าตายเป็นภาษาจีนบนหน้าของคู่กรณี คุณ ริว จิตสัมผัส จึงบอกทางบ้านไม่ต้องเอาเรื่องกับคู่กรณีคนนี้และมาทราบทีหลังว่าเขาเป็นโรค เอดส์จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน คุณริวก็แนะนำให้เขาไปบวช จากนั้นคุณ ริว ก็นำลายเซ็นของคุณพ่อมาดูก็เห็นการสิ้นสุดอายุขัยของคุณพ่อ
คุณ ริว จิตสัมผัส สามารถสื่อสารกับเทพกวนอูได้ ซึ่งดำริให้คุณริวต้องออกมาช่วยเหลือผู้คน โดยต้องไม่รับทรัพย์สิน เงินทองใดๆ ไม่รับเงินจากการแก้กรรมใดๆ ไม่เปิดตำหนัก ไม่ออกหนังสือ ซึ่งคุณ ริว ก็มีความตั้งใจออกมาช่วยเหลือผู้คนด้วย ท้ายรายการคุณริวมีการฝากเตือนว่าทุกวันนี้มีคนทำแท้งเยอะมากซึ่งเป็นวิบาก กรรมที่ยิ่งใหญ่มาก อีกอย่างอยากให้คนไทยทุกคนร่วมสร้างคุณงามความดีถวายในหลวงของเราโดยการกิน เจในวันพระ
Horoworld เคยนำเสนอเรื่องราวของเขาคนนี้ไปแล้วเมื่อประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ในฐานะของ ริว ปาณรวัฐ ลิ่มรัตนอาภรณ์ นักพยากรณ์ดาวรุ่งพุ่งแรง
"ผมสนใจเรื่องศาสตร์การทำนาย การพยากรณ์ ผมเชี่ยวชาญ และลักษณะการทำนาย ดูดวงชะตาโดยการรับรู้ด้วยสัมผัสพิเศษ และพลังจิต จากลายมือ ดูเหตุการณ์เฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบัน หรือจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพ การงานและชีวิตความเป็นอยู่ โดยไม่มีการอ้างอิงถึงบุคคลที่สาม ผมจะเน้นแนะนำให้คำปรึกษา วิธีแก้ไขโดยใช้หลักของเหตุและผล"
ริว ปาณรวัฐ ใช้ลายมือเป็นสื่อในการทำนาย โดยสามารถให้ผู้ที่สนใจจะตรวจดวงชะตา เขียนชื่อ-สกุล ตัวเลข วัน เดือน ปีเกิดตามนักษัตร และแน่นอนว่า Horoworld จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การทำนายทายทักจากลายมือ มานำเสนอเพิ่มเติม คนชอบเรื่องดวงตามติดกันให้ดี!
ส่วนในเรื่องราวของ จิตสัมผัส โดยภาพรวมจากข้อมูลที่ทีมงาน Horoworld ไปค้นคว้ารวบรวมมาจากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังจิตนั้น พอจะอธิบายเรื่องของจิตสัมผัสได้ว่า ทุกคนมีจิตสัมผัส จิตสัมผัสเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนตอนที่คุณเห็นคนคุ้นเคยนั่งนิ่งๆ แต่รู้สึกได้ว่าในหัวเขากำลังอัดแน่นด้วยพายุความฟุ้งซ่าน หรือคุณฟังเซลขายของพูดๆไป คุณรู้สึกได้ว่าเขาพูดโกหก
แต่ถึงแม้ว่า จิตสัมผัส จะเป็นเรื่องธรรมดา แต่จิตสัมผัสก็มีทั้งหยาบและละเอียด สัมผัสหยาบๆของคนธรรมดานั้นเกิดขึ้นเมื่อมีภาพเสียงมากระทบหูตาเสียก่อน หรือแม้เกิดสังหรณ์ก็ผิดบ้างถูกบ้าง ต่างจากสัมผัสทางจิตที่ละเอียด คมชัด และแจ่มแจ้งของผู้ทรงสมาธิระดับฌาน ซึ่งไม่ต้องรอภาพเสียงมากระทบหูตา คนอยู่ตรงหน้ายังไม่พูดก็อาจรู้ได้ว่าเขากำลังคิดอะไร เป็นต้น
ไม่เฉพาะแต่ความคิดคนอื่นที่จิตสามารถสัมผัสได้ แต่ยังเป็นกรรม เป็นวิบาก เป็นอดีต เป็นอนาคตของใครๆ หรือแม้กระทั่งความมีอยู่ของสิ่งเร้นลับในโลกและนอกโลก ระดับความสามารถสัมผัสของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ทางพุทธเชื่อว่าผู้มีจิตสัมผัส รู้เห็นอะไรๆได้แจ่มแจ้งแทงตลอดถึงที่สุดมีอยู่คนเดียวคือพระพุทธเจ้า ท่านสั่งสมบารมีมาหลายด้าน ไม่เฉพาะสมาธิและปัญญา แต่ยังมีมหาทานประมาณอนันต์เป็นองค์ประกอบ จึงอาจรู้ทุกสิ่งที่ต้องการรู้โดยไม่มีสิ่งใดติดขัด ไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ตลอดจนวิธีเกิดดับของจักรวาล และท่านก็รู้ด้วยว่าเรื่องทุกข์และวิธีดับทุกข์น่าพูดถึงที่สุดในโลก เรื่องอื่นหาประโยชน์ไม่ได้เท่า
สำหรับในวงการโหราศาสตร์มีการใช้ จิตสัมผัส ในการพยากรณ์ดวงชะตาด้วย โดยสามารถล่วงรู้ และทำนายได้ทั้งอดีต-ปัจจุบัน-อนาคต พร้อมแนะแนวทางแก้ไข
อย่างไรก็ตามควรพิจารณาอย่างรอบครอบ และศึกษาเรื่อง จิตสัมผัส รวมถึงตัวของหมอดูที่อ้างตัวว่ามี จิตสัมผัส สามารถทำนายทายทักให้ได้ เพื่อที่จะไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกที่แอบอ้างเพียงเพื่อหาผลประโยชน์เข้าตัว
วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555
ประวัติลัดดาแลนด์
ตามคนเก่าคนแก่ก่อนได้เล่าว่า .....
เมืองเชียงใหม่...เมื่อก่อนย้อนไปน่าจะซัก 30 กว่าปีได้
ลัดดาแลนด์เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวที่โด่งดังมากเพราะมีสวนกล้วยไม้ที่ใหญ่มากๆ
มีทั้งช้างให้นั่ง มีรถม้า มีรถไฟเล็ก การแสดงฟ้อนรำต่างๆ
มีค่าบัตรด้วยน่าจะ 8 บาทหรือ 10 บาทประมานนั้น
ทำให้หน้าหนาวทุกปีจะมีคนขึ้นมาเที่ยวเยอะมาก
เจ้าของคือ คุณนายลัดดา (ไม่ทราบนามสกุล)
เป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่นสมัยนั้นจะไปออกเดทกันเพราะมีความเชื่อว่า
คู่ไหนไปอธิฐานขอความรักกับต้นไทรหน้าลัดดาแลนด์แล้วคู่นั้นจะได้รักกันไปตล อดชีวิต
ส่วนประชากรในหมู่บ้านทั้งหมดนั้น ล้วนเป็นคนที่มีฐานะดีเข้าไปอยู่
จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านเศรษฐีก็ได้
แต่เรื่องของเรื่อง หรือต้นเหตุแห่งความเฮี้ยนมาเกิดขึ้น
ตอนที่บ้านหลังหนึ่งถูกโจรขึ้นและโดนคนร้ายฆาตกรรมเสียชีวิตทั้งครอบครัว
แล้วเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทก็เริ่มขึ้นจากตรงนี้เพราะคนที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านหลังนั้น
บางคืนก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้บ้าง อะไรบ้าง
บางคืนก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
หรือบางครั้งก็ได้ยินเสียงหัวเราะ
แต่จุดที่ผู้คนแถบนั้นเจอความเฮี้ยนกันจนอยู่ไม่ได้คือ
บางคืนคนแถวนั้นจะเห็นครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้วออกมายืนหน้าบ้าน
ออกมารดน้ำต้นไม้ คนที่ผ่านไปมาโดนหลอกทุกคน
ทำให้ตอนเที่ยงคืนจนถึงเช้าไม่มีใครจะกล้าออกจากบ้านเลย
นานวันเข้ายิ่งเฮี้ยนหนักจนถึงขั้นตามมาหลอกถึงบ้าน
คนแถวนั้นอยู่ไม่ไหวเลยพากันย้ายออกไปเกือบหมด
ทำให้แถวนั้นกลายเป็นบ้านร้างเยอะ แต่ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่ยังไม่ไปไหน
และ 1 ใน 3 หลังนั้นเจ้าของเป็นฝรั่งไม่ค่อยได้อยู่ แต่จะบินมาเที่ยวเฉพาะฤดูหนาว
เพราะอย่างที่หร่อนๆ รู้กันว่าเมืองเชียงใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมาก
เจ้าของบ้านที่เป็นฝรั่งท่านนั้นได้จ้างเด็กสาวชาวพม่ามาเฝ้าบ้าน
แต่ผ่านไปไม่นานก็มีโจรมาขึ้นบ้านหลังนั้น และฆ่าเด็กสาวคนนั้น
แล้วหมกศพไว้ในห้องเก็บของใต้บันได
กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือน
สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบได้ก็คือ
บ้านที่ยังเหลืออยู่ใกล้ๆ กัน ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากในบ้าน
แต่ก็ไม่ได้สงสัยเพราะยังคงเห็นเด็กสาวคนนี้มานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านทุ กวัน
จนวันหนึ่งเพื่อนบ้านดังกล่าวทนกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยคละคลุ้งไม่ไหว
จึงได้ตะโกนบอกเด็กสาวคนนั้นว่าให้ทำความสะอาดบ้านบ้าง อะไรบ้าง เพราะอาจจะมีหนูตาย
พูดยังไม่ทันจบ เด็กสาวก็หันหน้าเละๆ มา
เพื่อนบ้านก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปแจ้งความและแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ
พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเปิดบ้านเพื่อทำการตรวจสอบจึงพบศพดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะพบศพและได้ทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลทางศาสนาแล้ว
แต่เด็กสาวคนนั้นก็ยังมานั่งอยู่ที่เดิมทุกวัน
ถ้านั่งธรรมดาไม่มายุ่งกะชาวบ้านก็คงจะดี ไม่มีใครเดือดร้อน
แต่เพื่อนบ้านแถบนั้นเล่าว่า บางคืนเด็กสาวจะตามมายืนมอง
ที่หน้าต่างห้องนอนตอนนอนกลางคืนเลยด้วยซ้ำดังนั้นเพื่อนบ้านทั้งแถบจึงพากั นย้ายออกอย่างไม่เสียดายบ้าน
ตอนที่บ้านหลังหนึ่งถูกโจรขึ้นและโดนคนร้ายฆาตกรรมเสียชีวิตทั้งครอบครัว
แล้วเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทก็เริ่มขึ้นจากตรงนี้เพราะคนที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านหลังนั้น
บางคืนก็ได้ยินเสียงคนร้องไห้บ้าง อะไรบ้าง
บางคืนก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
หรือบางครั้งก็ได้ยินเสียงหัวเราะ
แต่จุดที่ผู้คนแถบนั้นเจอความเฮี้ยนกันจนอยู่ไม่ได้คือ
บางคืนคนแถวนั้นจะเห็นครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้วออกมายืนหน้าบ้าน
ออกมารดน้ำต้นไม้ คนที่ผ่านไปมาโดนหลอกทุกคน
ทำให้ตอนเที่ยงคืนจนถึงเช้าไม่มีใครจะกล้าออกจากบ้านเลย
นานวันเข้ายิ่งเฮี้ยนหนักจนถึงขั้นตามมาหลอกถึงบ้าน
คนแถวนั้นอยู่ไม่ไหวเลยพากันย้ายออกไปเกือบหมด
ทำให้แถวนั้นกลายเป็นบ้านร้างเยอะ แต่ยังมีบ้านอีก 3 หลังที่ยังไม่ไปไหน
และ 1 ใน 3 หลังนั้นเจ้าของเป็นฝรั่งไม่ค่อยได้อยู่ แต่จะบินมาเที่ยวเฉพาะฤดูหนาว
เพราะอย่างที่หร่อนๆ รู้กันว่าเมืองเชียงใหม่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อมาก
เจ้าของบ้านที่เป็นฝรั่งท่านนั้นได้จ้างเด็กสาวชาวพม่ามาเฝ้าบ้าน
แต่ผ่านไปไม่นานก็มีโจรมาขึ้นบ้านหลังนั้น และฆ่าเด็กสาวคนนั้น
แล้วหมกศพไว้ในห้องเก็บของใต้บันได
กว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาพบก็ผ่านไปเกือบ 2 เดือน
สาเหตุที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาพบได้ก็คือ
บ้านที่ยังเหลืออยู่ใกล้ๆ กัน ได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมาจากในบ้าน
แต่ก็ไม่ได้สงสัยเพราะยังคงเห็นเด็กสาวคนนี้มานั่งอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้านทุ กวัน
จนวันหนึ่งเพื่อนบ้านดังกล่าวทนกลิ่นเหม็นเน่าที่โชยคละคลุ้งไม่ไหว
จึงได้ตะโกนบอกเด็กสาวคนนั้นว่าให้ทำความสะอาดบ้านบ้าง อะไรบ้าง เพราะอาจจะมีหนูตาย
พูดยังไม่ทันจบ เด็กสาวก็หันหน้าเละๆ มา
เพื่อนบ้านก็เลยรีบวิ่งแจ้นไปแจ้งความและแจ้งให้เจ้าของบ้านทราบ
พอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเปิดบ้านเพื่อทำการตรวจสอบจึงพบศพดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะพบศพและได้ทำพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลทางศาสนาแล้ว
แต่เด็กสาวคนนั้นก็ยังมานั่งอยู่ที่เดิมทุกวัน
ถ้านั่งธรรมดาไม่มายุ่งกะชาวบ้านก็คงจะดี ไม่มีใครเดือดร้อน
แต่เพื่อนบ้านแถบนั้นเล่าว่า บางคืนเด็กสาวจะตามมายืนมอง
ที่หน้าต่างห้องนอนตอนนอนกลางคืนเลยด้วยซ้ำดังนั้นเพื่อนบ้านทั้งแถบจึงพากั นย้ายออกอย่างไม่เสียดายบ้าน
เรื่องเล่าเขย่าขวัญมากมายเกี่ยวกับลัดดาแลนด์
ที่คนเชียงใหม่น่าจะรู้และจำกันได้ดี ยกตัวอย่างเช่น
1. มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมากและมาอธิฐานขอให้ความรักสมหวังกับต้นไทรที่ลัด ดาแลนด์
แต่แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับฝ่ายชาย ทั้งสองจึงมาแขวนคอตายคู่กันที่ใต้ต้นไทรนั้น
คนแถวนั้นเล่ากันว่า ทุกวันครบรอบวันที่ทั้งคู่ผูกคอตายเวียนมาบรรจบ (ดิชั้นไม่รู้นะคะว่าวันไหน)
คนแถวนั้นจะเห็นทั้งคู่ห้อยหัวโตงเตงพร้อมกับส่งยิ้มมาให้คนที่ผ่านไปมาได้พ บเห็น
2. ช่วงก่อนที่จะสร้างสวนสาธารณะนี้เสร็จ ตอนที่ขุดหลุมเพื่อที่จะทำบ่อน้ำ
ทางโครงการได้พบกับโครงกระดูกมนุษย์จำนวนหนึ่ง แต่ไม่เปิดเผยให้บุคคลทั่วไปได้ทราบกัน
3. เมื่อ 10 กว่าปีก่อนสถานที่แถวนั้นเป็นที่รกร้างและเปลี่ยวมาก
จึงมีการนำศพคนตายที่ถูกปล้นหรือถูกฆ่าข่มขืนมาทิ้งไว้ที่นั้น
ที่พอทราบมา ณ ขณะนี้ จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ
อย่างน้อยๆ ก็ 8 ศพ แต่ที่ไม่รู้อีกน่าจะเยอะมาก
4. มีหญิงสาวและหญิงขายบริการหลายคนที่ทำแท้ง
แล้วนำซากเด็กทารกไปทิ้งไว้ในสระน้ำของโครงการลัดดาแลนด์เป็นจำนวนมาก
หลายคนบอกว่ามากกว่า 100 เลยทีเดียว
5. มีขี้ยาคนหนึ่งที่อัพยาเกินขนาดแล้วเกิดช็อคตายคาศาลาที่ริมสระน้ำของโครงกา ร
กว่าจะมีคนมาพบ ศพก็เน่าหมดแล้ว แต่บางแหล่งข่าวเล่าว่า
ที่ช็อคเพราะหัวใจวายเนื่องจากเห็นบางอย่างที่หน้าสะพรึงกลัวมากๆ
(หน้าของศพดวงตาเบิกโพลง และลิ้นจุกปาก)
และสุดท้ายก็โดนเอาไปเป็นตัวตายตัวแทน
เพราะกัญชายังเหลืออยู่ข้างๆ ศพอีกเยอะเลย
6. มีการนำศาลพระภูมิรวมถึงตุ๊กตาสะเดาะเคาระห์มาทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก
จนทางเทศบาลต้องมารื้อไปทิ้งไว้นอกเมือง
แต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะถึงจะย้ายไปไกลแค่ไหน
วันรุ่งขึ้นตุ๊กตาและศาลเหล่านั้นก็จะกลับมาอยู่ ณ ที่เดิม โดยไม่ทราบสาเหตุ
7. มีหญิงสาวที่มาขอความรักกับต้นไทรแล้วผิดหวังในความรัก เลยมากินยาฆ่าแมลง
ตายใต้ต้นไทรหน้าหมู่โครงการลัดดาแลนด์โดยที่ทิ้งจดหมายไว้สั้นๆว่า "จะอยู่ข้างๆเธอตลอดไป"
หลังจากนั้น ชาวบ้านแถบนั้นเล่าว่า วิญญาณจะสิ่งอยู่ในตุ๊กตาสัตว์ที่วางไว้อยู่มากมายในโครงการ
ที่คนเชียงใหม่น่าจะรู้และจำกันได้ดี ยกตัวอย่างเช่น
1. มีคู่รักคู่หนึ่งที่รักกันมากและมาอธิฐานขอให้ความรักสมหวังกับต้นไทรที่ลัด ดาแลนด์
แต่แล้วพ่อแม่ฝ่ายหญิงไม่ยอมรับฝ่ายชาย ทั้งสองจึงมาแขวนคอตายคู่กันที่ใต้ต้นไทรนั้น
คนแถวนั้นเล่ากันว่า ทุกวันครบรอบวันที่ทั้งคู่ผูกคอตายเวียนมาบรรจบ (ดิชั้นไม่รู้นะคะว่าวันไหน)
คนแถวนั้นจะเห็นทั้งคู่ห้อยหัวโตงเตงพร้อมกับส่งยิ้มมาให้คนที่ผ่านไปมาได้พ บเห็น
2. ช่วงก่อนที่จะสร้างสวนสาธารณะนี้เสร็จ ตอนที่ขุดหลุมเพื่อที่จะทำบ่อน้ำ
ทางโครงการได้พบกับโครงกระดูกมนุษย์จำนวนหนึ่ง แต่ไม่เปิดเผยให้บุคคลทั่วไปได้ทราบกัน
3. เมื่อ 10 กว่าปีก่อนสถานที่แถวนั้นเป็นที่รกร้างและเปลี่ยวมาก
จึงมีการนำศพคนตายที่ถูกปล้นหรือถูกฆ่าข่มขืนมาทิ้งไว้ที่นั้น
ที่พอทราบมา ณ ขณะนี้ จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือ
อย่างน้อยๆ ก็ 8 ศพ แต่ที่ไม่รู้อีกน่าจะเยอะมาก
4. มีหญิงสาวและหญิงขายบริการหลายคนที่ทำแท้ง
แล้วนำซากเด็กทารกไปทิ้งไว้ในสระน้ำของโครงการลัดดาแลนด์เป็นจำนวนมาก
หลายคนบอกว่ามากกว่า 100 เลยทีเดียว
5. มีขี้ยาคนหนึ่งที่อัพยาเกินขนาดแล้วเกิดช็อคตายคาศาลาที่ริมสระน้ำของโครงกา ร
กว่าจะมีคนมาพบ ศพก็เน่าหมดแล้ว แต่บางแหล่งข่าวเล่าว่า
ที่ช็อคเพราะหัวใจวายเนื่องจากเห็นบางอย่างที่หน้าสะพรึงกลัวมากๆ
(หน้าของศพดวงตาเบิกโพลง และลิ้นจุกปาก)
และสุดท้ายก็โดนเอาไปเป็นตัวตายตัวแทน
เพราะกัญชายังเหลืออยู่ข้างๆ ศพอีกเยอะเลย
6. มีการนำศาลพระภูมิรวมถึงตุ๊กตาสะเดาะเคาระห์มาทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก
จนทางเทศบาลต้องมารื้อไปทิ้งไว้นอกเมือง
แต่ก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ เพราะถึงจะย้ายไปไกลแค่ไหน
วันรุ่งขึ้นตุ๊กตาและศาลเหล่านั้นก็จะกลับมาอยู่ ณ ที่เดิม โดยไม่ทราบสาเหตุ
7. มีหญิงสาวที่มาขอความรักกับต้นไทรแล้วผิดหวังในความรัก เลยมากินยาฆ่าแมลง
ตายใต้ต้นไทรหน้าหมู่โครงการลัดดาแลนด์โดยที่ทิ้งจดหมายไว้สั้นๆว่า "จะอยู่ข้างๆเธอตลอดไป"
หลังจากนั้น ชาวบ้านแถบนั้นเล่าว่า วิญญาณจะสิ่งอยู่ในตุ๊กตาสัตว์ที่วางไว้อยู่มากมายในโครงการ
10 อันดับบ้านผีเฮี้ยนในประเทศไทย
1.ในซอยรามคำแหง 32
ปล่อยให้ทิ้งร้างเก่าทรุดโทรมอย่างน่าใจหาย
ประวัติของบ้านมีว่าเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ วันหนึ่งเจ้าของบ้านขับรถออกไปทำงานตามปกติ
ที่บ้านมีสาวใช้อยู่เพียงคนเดียว คนร้ายไม่ทราบจำนวน ซึ่งคงมาแอบสังเกตการณ์นานพอสมควรได้ฉวยโอกาสเข้าปล้น และฆ่าสาวใช้ตายคาที่ นับตั้งแต่นั้นมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ช่วยดังโหยหวนน่าสยดสยอง และยังเห็นผู้หญิง (เข้าใจว่าเป็นสาวใช้ที่ถูกฆ่าตาย) เดินวนเวียนวูบวาบอยู่ในบ้าน
เจ้าของบ้านทนอยู่ไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น
เล่ากันว่าหลังจากนั้น มีคนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย ดังมาจากบ้านร้างบ่อยๆ และมีคนเห็นผู้หญิงลึกลับ ยืนอยู่หน้าบ้านเป็นประจำเมื่อเข้าไปใกล้ก็หายไป
2.วัดมหาบุศย์ พระโขนง
ที่วัดมหาบุศย์ ยังมีศาลย่านาคตั้งอยู่ สืบเนื่องมาจากตำนานรักของแม่นาคพระโขนง ที่รู้กันแพร่หลายเล่ากันว่า เมื่อผีแม่นาคอาลวาดหลอกหลอน จนชาวบ้านหาปกติสุขมิได้ เจ้าประคุณสมเด็จโต (วัดระฆั )ได้มานำวิญญาณแม่นาคไปพร้อมกับกระดูกกระโหลกหน้าผาก แล้วอบรมสั่งสอนให้รักษาศีล ปฏิบัติธรรม นัยว่าแม่นาคเลื่อนภพเป็นเทพแล้ว หากยังมีผีวนเวียนที่วัดมหาบุศย์คงมิใช่วิญญาณแม่นาคอย่างแน่นอน
3.ในซอยสายหยุด อู่รถเมลล์เก่า
ที่นี่เป็นสุสานรถเมลล์หรือรถโดยสารประจำทาง ที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนใช้การไม่ได้
ซากรถเมลล์แต่ละคันมีประวัติคนตายโหงคารถ ในสภาพสยดสยองมาแล้วและเป็นที่เล่าลือกันว่า อยู่ดีๆไฟในรถกลับเปิดสว่างขึ้นมาเอง หรือมีคนมายืนโบกรถหน้าอู่ แท๊กซี่จะเข้าไปจอดรับก็หายไป บางครั้งมีคนวิ่งตัดหน้า และหายไปดื้อๆ
4.ในซอยรอดอนันต์ 1 ถ.สุขาภิบาล1
เป็นบ้านร้างทรงไทยอยู่ริมบึงห่างไกลจากบ้านอื่นๆในระแวกนั้น บริเวณบ้านรกครึ้มด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย
คุณยายเจ้าของบ้าน เสียชีวิตที่บ้านหลังนี้ และน่าเชื่อว่า วิญญาณของคุณยายไม่ยอมไปผุดไปเกิด
แต่ยังคงวนเวียนอยู่ในบ้าน จนกระทั่งลูกหลานไม่กล้าอยู่ ต่างแยกย้ายไปอยู่ที่อื่นหมด
ปล่อยบ้านทิ้งร้างชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา และที่บ้านหลังนี้เล่าลือกันว่าผีดุนัก คนอยู่ระแวกใกล้เคียง เคยเห็นผีคุณยายมายืนชี้นิ้วอยู่ที่หน้าบ้าน เมื่อมีเด็กๆ วิ่งเล่นอยู่ในบริเวณหน้าบ้าน เคยมีคนใจกล้าเข้าไปในบ้าน ได้ยินเสียงผู้หญิงแก่ๆขู่ตะคอก จนต้องเผ่นออกมาแทบไม่ทัน
5.รังสิต คลอง 13
จากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร มีบ้านพักถูกไฟไหม้เกือบหมดทั้งหลัง แต่ยังเหลือซากบ้านอยู่ส่วนหนึ่ง ข้อมูลบางกระแสเล่าว่า มีผู้หญิงตายในไฟ บ้านหลังนี้อยู่ในสวนมะขามหวาน แต่ถูกทิ้งให้รกร้าง
คนในระแวกใกล้เคียงต่างยืนยันกันว่าตอนกลางคืน จะได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องโหยหวน มาจากซากบ้านบ่อยๆ พร้อมกันนั้นเคยมีคนเห็นผีผู้หญิงในบริเวณซากบ้านด้วย
6.ในซอยมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ถ.พัฒนาการ
เป็นโรงงานร้าง เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำปากกา และเป็นโรงกลึงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 80 ไร่ เหตุที่กลายเป็นโรงงานร้าง ชำรุดทรุดโทรม มีวัชพืชขึ้นปกคลุมรกครึ้มเช่นทุกวันนี้ ว่ากันว่าเจ้าที่เจ้าทางแรง ระหว่างที่ดำเนินงานอยู่ มีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุหลายคน ผู้ลงทุนขาดทุนย่อยยับจนต้องเลิกกิจการหากเดินเข้าไปในอาณาเขตโรงงานร้าง จะสัมผัสบรรยากาศยะเยือกผิดปกติ และเล่าลือกันว่าหากไปเคาะแท้งก์น้ำซึ่งตั้งอยู่ 3 ใบ 3 ครั้ง จะปรากฏเจ้าที่เจ้าทางออกมาให้เห็นทันที
7.วัดปราสาท จ.นนทบุรี
เป็นวัดเก่าแก่โบราณ สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนกลาง เคยขุดพบกำแพงเมืองรอบอุโบสถอายุ 300 ปีด้านหลังอุโบสถ มีคุ้มเก่าแก่ชำรุดทรุดโทรม ว่ากันว่าเจ้าของสถานที่คือ พระนางอุษาวดีเทวี ชาวบ้านระแวกนั้นเรียกว่า "แม่" และ" เจ้าแม่ " เวลากลางคืนหากไปที่บริเวณคุ้มจะมีบรรยากาศวังเวงน่ากลัวมาก ผู้ใดไปแสดงกิริยาวาจาจ้วงจาบหยาบคาย ไม่เคารพผู้เป็นเจ้าของสถานที่ มักจะพบกับเหตุการณ์แปลกๆน่าขนหัวลุก
8.โรงงานร้างอยู่ในอุตสาหกรรมบางปู (ฝั่งเดียวกับเมืองโบราณ)
สถานที่อยู่สุดซอย 2 เมื่อก่อนนี้เป็นโรงงานทำรองเท้า ขณะที่กิจการกำลังดำเนินงานไปด้วยดี ได้เกิดอุบัติเหตุร้างแรง คือเครื่องปั้มลมเกิดระเบิดคนงานหลายคนเสียชีวิตสยอง นับตั้งแต่นั้นคนงานที่ทำงานอยู่ ถูกผีหลอกวิญญาณหลอน จนต้องทะยอยลาออกไปเรื่อยๆจนหมด กิจการประสบความวินาศ เจ้าของโรงงาน ยิงตัวตายในห้องทำงานชั้นบนของโรงงาน และกลายเป็นสถานที่รกร้างเรื่อยมา เล่าลือกันว่าผีดุมาก ปัจจุบันนี้ยังมีเศษรองเท้ากระจายเกลื่อนและปั้มลมมรณะก็ยังอยู่
9.ในซอยวัชรพล
เป็นบ้านทรงยุโรปหลังใหญ่ ซึ่งยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ถูกทิ้งร้างค้างคาอยู่ในสภาพเดิม เวลากลางคืนดูน่ากลัวชวนขนลุกยิ่ง และว่ากันว่ามีคนพบเห็นวิญญาณของชายหญิงและเด็ก ปรากฏวูบวาบบ่อยๆ สาเหตุที่บ้านหรูหลังใหญ่ กลายเป็นบ้านร้าง เนื่องจากเจ้าของบ้านหลังนี้ พาครอบครัวขับรถไปเที่ยวต่างจังหวัด
และประสบอุบัติเหตุ เสียชีวิตหมดทุกคน
10.ในซอยวัชรพลเช่นกัน
เป็นหมู่บ้านร้างตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ชื่อหมู่บ้านปิยพร คนเก่าคนแก่ในพื้นที่เล่าว่า ที่ดินส่วนนี้เคยเป็นป่าช้ามาก่อน เจ้าของโครงการ ไม่ได้ทำพิธีบอกกล่าวขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง ดังนั้นพอเริ่มงานก่อสร้าง จึงพบกับอุปสรรคนานาประการ ต่อมามีคนงานเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุหลายคน ในเขตหมู่บ้านมีบึงใหญ่อยู่แห่งหนึ่ง ก็มีเด็กตกไปตาย 2-3 คน ประกอบกับบ้านในโครงการ ไม่มีผู้สนใจอย่างที่ประเมินเอาไว้ จึงต้องยุติโครงการ กลายเป็นหมู่บ้านร้างกลางกรุง พร้อมกันนั้นก็มีเสียงเล่าลือว่า ผู้ที่เข้าไปในเขตหมู่บ้านยามวิกาล มักจะพบวิญญาณแสดงตัวหลอกหลอนเล่นเอาขวัญหนีดีฝ่อ ไม่บังอาจกล้ำกลายเข้าไปอีก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)